เหมืองทองพิจิตรชุมชนมั่งคั่งหรือล่มสลาย?
ตอนที่ 3 ข้อต่อสู้สุดท้ายของคนข้างเหมือง (จบ)
สื่อกัญญาธีระชาติดำรงเป็นหนึ่งในชาวบ้านกลุ่มสุดท้ายที่ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ เธอต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนชาวบ้านเดินทางไปร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆมาถึงวันนี้ชาวบ้านเหลือข้อต่อสู้สุดท้ายก็คือทางสาธารณะ 4 เส้นที่อยู่ในใบประทานบัตรของบริษัทฯซึ่งชาวบ้านใช้เป็นทางลัดไปจังหวัดเพชรบูรณ์
เพราะทางสาธารณะเป็นของส่วนรวมบริษัทฯจึงต้องทำประชาคมกับชาวบ้านเดือนกรกฎาคม 2556 บริษัทฯได้ทำเรื่องขออนุญาตระเบิดทางสาธารณะ 4 เส้นนี้กับอบต.เขาเจ็ดลูกและให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาคัดค้านภายเวลา 30 วันซึ่งชาวบ้านหมู่ที่ 9 ก็ได้คัดค้านการระเบิดทางสาธารณะกับอบต.
แต่ต่อมาในเดือนกันยายน 2556 มติจากสภาสมาชิกอบต.เขาเจ็ดลูกกลับเห็นชอบให้บริษัทฯระเบิดทางสาธารณะเพื่อทำเหมืองได้โดยในวันนั้นมีการไล่ชาวบ้านออกจากที่ประชุมด้วยและในที่สุดผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรก็เซ็นอนุมัติหลังจากนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมาผมพาชาวบ้านเข้าพบกับผู้ว่าราชจังหวัดพิจิตรเพื่อสอบถามความชัดเจนต่อกรณีดังกล่าวได้รับคำตอบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดได้เซ็นอนุมัติจริงเนื่องจากข้อมูลจากหน่วยงานราชการท้องถิ่นทั้งอบต. อำเภอจนมาถึงจังหวัดไม่มีปัญหาขัดข้องแต่อย่างใดผู้ว่าฯได้แนะนำกับชาวบ้านให้ทำหนังสือขออุธรณ์มาที่จังหวัดอีกครั้ง
ทั้งนี้ผู้ว่าฯจังหวัดพิจิตรปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผม
ผมถามสื่อกัญญาว่า “ถึงวันนี้ยอมแพ้หรือยัง” เธอตอบว่า “ยอมแพ้...แต่ถ้าจะให้เราออกไปคนเดียวตอนนี้ไม่ไปคือตรงนี้มันเป็นพื้นที่เส้นยาแดงเลยอยู่ติดขอบบ่อเลยเพราะฉะนั้นถ้ามีคนใดคนหนึ่งยังอยู่ในพื้นที่เขาก็จะต้องตายให้ที่สุดถ้าเราออกจากพื้นที่เราขอไปทั้งหมดจากพื้นที่ตรงแต่ถ้าเราออกไปได้หมดเหมือนก็ต้องหยุด”
ทองอยู่สินดีอายุ 55 ปีเป็นชาวชุมชนเขาหม้อหมู่ที่ 9 ที่บ้านอยู่ติดเหมืองมากกว่าใครๆมีฝื่นเป็นปื้นๆขึ้นตามตัวทองอยู่ใช้ชีวิตเยียงชาวบ้านธรรมดาที่อยู่เฉยๆไม่ได้ร่วมคัดค้านเหมือนกับสื่อกัญญาที่เป็นแกนนำชาวบ้านคนอื่นๆแม้เธอจะได้รับผลกระทบที่หนักกว่าแต่เธอบอกว่ายอมจำนนต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีทางเลือกเพราะเธอไม่มีเงินไม่มีที่ไปก็ต้องอยู่ไปเรื่อยๆ
“บริษัทฯเลือกซื้อที่ของบ้านที่มีเยอะๆคนอื่นเขาขายไปหมดแล้วเขาไม่เห็นมาซื้อของฉันสักทีฉันมีแค่ 3 งานเท่านี้แหละ”
ทองอยู่ไปเซ็นของมาขายเปิดเป็นร้านๆเล็กๆให้พอมีรายได้เลี้ยงหลาน 2 คนที่พ่อกับแม่ต้องเข้าไปทำงานเป็นกรรมกรในกรุงเทพณวันนี้เธอบอกว่าไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้วแต่ชีวิตที่ไม่มีทางเลือกมากนัก เธอทำได้เพียงแค่เฝ้ารอบริษัทฯที่จะมาซื้อทีดินผืนนี้
////////////////////////////////////////////// tanpisit lerdbamrungchai : The Nation
อ่านข้อมูลประกอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น