ช่วยเหลือกะเหรี่ยงกว่า 3,000 คน เหตุเพลิงไหม้ศูนย์พักพิงฯ จ.แม่ฮ่องสอน
ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาสังคม ( NGO) จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เร่งระดมช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงในค่ายอพยพยที่ถูกไฟไหม้ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
ขณะที่น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม และกาต้มร้ำร้อน กำลังขาดแคลน
นางศิวัฌญา ทอดเสียง พนังงานสำนักป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย
จ.แม่ฮ่องสอนระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีการประชุมหารือกันกับหน่วยงานต่างๆ
การช่วยเหลือในเวลานี้เป็นไปอย่างเร่งด่วน หน่วยงานหรือองค์กรไหนสามารถช่วยเหลือในสิ่งใดได้ ก็ช่วยเหลือกันไปก่อน โดยทางจังหวัดได้เปิดบัญชี
"""ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยศูนย์พักพิงแม่สุรินทร์" เลขที่บัญชี 508-0-25610-9 ธนาคารกรุงไทย
สาขาแม่ฮ่องสอน ซึ่งตอนนี้มีจำนวนเงินที่บริจาคเข้ามาเพียง 30,000 บาทเท่านั้น ส่วนสิ่งของบริจาคที่จำเป็นที่สุในเวลานี้คือกาต้มน้ำ
"ตอนนี้มีผู้คนบริจาค อาหารแห้งจำพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเป็นจำนวนมาก
ซึ่งยังขาดอุปกรณ์ในการประกอบอาหารคือกาต้มน้ำ" นางศิวัฌญา กล่าว
ThoeNyar Minyo คณะทำงานในองค์สตรีกระเหรี่ยงเปิดเผยว่า
การช่วยเหลือล่า่สุดของภาคประสังคมได้มีการแบ่งงานออกเป็น 3 ส่วน
โดย UNHCR ดูแลส่วนที่พักพิง ได้จัดเตรียมเต้นท์ 800 หลังเป็นที่พักให้กับผู้ประสบภัย ILC ดูแลส่วนงานสุขภาพของผู้อพยพย
และ TVC ดูแลส่วนงานประกอบอาหาร
"สิ่งของที่จำเป็นที่สุดตอนนี้น่าจะเป็น น้ำดื่ม อาหารแห้ง
และเต้นที่อยู่อาศัย" ThoeNyar กล่าว
Htoowea Lweh หนึ่งในคณะกรรมการผู้หนี่ภัยการสู้รบชาวกะเหรี่ยง Karenni
Refugee Committee (KnRC) เปิดเผยข้อมูลของจำนวนเด็ก
และสตรีในค่ายอพยพ พบว่ามีเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปีจำนวน 520
คน และสตรีมีจำนวน 320 คน
"ตอนนี้สุขภาพจิตของผู้สูงอายุในค่ายอพยพไม่ค่อยดีนัก
เราต้องเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างไกล้ชิด
และทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เกิด
เรารู้ดีว่าการสร้างที่พักของชาวกะเหรี่ยงใช้อุปกรณ์ส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติ
แม้เแต่หลังคายังมุงด้วยใบตองตึง ฉะนั้นมันจึงติดไฟง่าย ขณะเดียวกัน UNHCR ก็ห้ามไม่ให้ชาวเหรี่ยงก่อสร้างที่พักด้วยสังกะสี ต่อจากนี้คงจะต้องมีการให้ความรู้เรื่องอัคคีภัยกับชาวกะเหรี่ยงอพยพให้มีความระมัดระวังกันมากขึ้น ส่วนเรื่องการย้ายค่ายอพยพไปอยู่ที่อื่น ตอนนี้่ยังไม่มีความชัดเจน" Htoowea
กล่าว
________________________________
ธัญพิสิษฐ์ เลิศบำรุงชัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น