จากบางนา สู่บางเขน
ตอนที่ 5 : โต๊ะข่าวของชาวบ้าน
ตอนที่ 5 : โต๊ะข่าวของชาวบ้าน
ปกติเราคุ้นชินกับข่าวการเมือง
ข่าวอาชญากรรม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวภูมิภาค ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา
แต่มีอีกข่าวหนึ่งที่มีเฉพาะในสำนักข่าวที่ได้ชื่อว่าเป็น สื่อสาธารณะแห่งนี้นั่นคือ
“ข่าวนโยบายสาธารณะ” ครับ ข่าวนี้จะเป็นข่าวการเมืองก็ไม่ใช่ ข่าวภูมิภาคก็ไม่เชิง
พี่แวว ณาตยา แวววีระคุปต์ บรรณาธิการข่าวนโนยบายสาธารณะ |
ThaiPBS จัดกลุ่มข่าวเป็น
2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มข่าวสถานการณ์ปัจจุบัน
เช่นข่าวอาชญากรรม ข่าวการเมือง ข่าวภูมิภาค กับกลุ่มข่าววาระทางสังคม
เช่นข่าวนโยบายสาธารณะ
นั่นหมายความว่า
“ข่าวนโยบายสาธารณะ” ไม่ใช่ข่าวรายวัน แต่เป็นข่าวที่ตามในประเด็นสาธารณะ
ที่มีผลกระทบต่อชีวิตของชาวบ้าน อันเนื่องมาจากนโยบายของรัฐ อย่างปัญหาที่ดิน
การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า และการละเมิดสิทธิชุมชน เป็นต้น
ในโต๊ะข่าวนโยบายสาธารณะนี้
มีกลไกในการตามประเด็นต่างๆ ด้วยการใช้รายการ และช่วงข่าวดังต่อไปนี้ ช่วงวาระประเทศไทย
และนักข่าวพลเมือง ในข่าวค่ำ จะเป็นตัวเปิดประเด็น ตามมาด้วยรายการเวทีสาธารณะที่จะรับไปตามประเด็นต่อ
ด้วยการเปิดเวทีให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมหาทางออกร่วมกัน และ ปิดประเด็นด้วยรายการเสียงประชาชนเปลี่ยนประเทศไทย
ที่จะพาย้อนกลับไปดูรากเง้าของปัญหา จนกระทั้งถูกเสียงของประชาชนสะท้อนออกมา
โดยทีมงานรายการนี้จะนำประเด็นปัญหานั้น ไปถามตรงต่อนักการเมือง
หรือหน่วยงานราชการที่มีส่วนในการแก้ไขปัญหา
เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น
ที่น่าสนใจคือผู้กำหนดประเด็นข่าว
หรือกำหนดวาระ นอกจากตัวกองบรรณาธิการจะเป็นผู้กำหนดเองตามบทบาทและหน้าที่ของสื่อมวลชนแล้ว
อีกส่วนก็มาจากชาวบ้านเป็นที่ “นักข่าวพลเมือง” หลายครั้งที่
ชาวบ้านเป็นผู้เปิดประเด็น จนทำให้สื่อกระแสหลักตามประเด็นนั้นต่อ
จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง การเปิดประเด็นของชาวบ้านจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
ถ้าไม่ใช่บนพื้นที่ของสื่อสาธารณะ สำคัญไปกว่านั้นคือการทำงานระหว่างหน้าจอ
คือตัวคนในไทยพีบีเอสเอง กับหลังจอคือชาวบ้านนักข่าวพลเมืองในพื้นที่
ที่เป็นมากกว่าแหล่งข่าว เพราะพวกเขาต้องการที่จะสื่อสารด้วยตนเอง
พรุ่งนี้ติดตามตอนสุดท้าย ตอนที่ 6 : ฝึกงานไทยพีบีเอสเป็นมากกว่าการเรียนรู้
My Twitter : @tanpisitlive
My Facebook : Tanpisit Lerdbamrungchai
My Twitter : @tanpisitlive
My Facebook : Tanpisit Lerdbamrungchai
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น