วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ติวเตอร์ทั้งหลายโปรดฟังทางนี้ คนดีสำคัญที่สุด


ในช่วงชีวิต ม.ปลายที่อยู่ในรั่วของโรงเรียนพนัสพิทยาคาร โรงเรียนนี้จัดติวบ่อยมากครับ การติวแต่ละครั้ง ก็จะเชิญติวเตอร์ที่เรียกได้ว่ามืออาชีพและมีชื่อเสียง จากการสังเกตุพบว่าส่วนหนึ่งของกลวิธีในการติว คือการที่ติวเตอร์จะต้องปลุกเร้าและให้กำลังใจแก่นักเรียนไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงประโยชน์จากการที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีดีได้ ที่สำคัญคือการเปรียบเทียบระหว่างบุคคลที่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้และบุคคลที่ไม่สามารถเข้ามหาวิทยาที่มีชื่อเสียงได้ เรื่อยไปจนกระทั่งเอาเรื่องของความเหลือมหล้ำทางสังคมมาพูด ยกตัวอย่างเช่น การเปรียบเทียบอาชีพที่ได้เงินเดือนน้อยและลำบากอย่างคนขับรถแท็กซี่ สาวโรงงาน หรือเกษตรกร เป็นต้น กับอาชีพที่ได้เงินเดือนมากอย่าง แพทย์ วิศวกร CEO NGO ต่างๆ ซึ่งการเปรียบการดังกล่าวเป็นการไม่เหมาะสม เราควรที่จะเคารพในอาชีพทุกอาชีพ เพราะทุกอาชีพต่างก็สร้างประโยชน์กับประเทศด้วยกันทั้งนั้น เช่นถ้าประเทศเรามีแต่แพทย์แต่ไม่มีเกษตรกรเราจะรับประทานข้าวจากที่ไหน และในทางกลับกันถ้าประเทศเรามีแต่เกษตรกรแต่ขาดแคลนแพทย์ เจ็บป่วยขึ้นมาจะรักษากับใคร ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าในสังคมจะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ ทุกส่วนต่างต้องเกื้อกูลอาศัยกัน ทุกอาชีพต่างมีบทบาทและความสำคัญเท่าๆกัน




ผมเคยมีโอกาสเข้าไปฟังการเสวนาวิชาการ ThaiPBS Forum ที่เสวนากันในเรื่องการปฏิรูปประเทศ ความเหลือมล้ำทางสังคมเป็นประเด็นหนึ่งที่่ถูกพูดถึง และเป็นประเด็นที่นำไปสู่ปัญหาโครงสร้างทางสังคม ซึ่งประเด็นนี้ผมว่าแก้ได้ง่ายๆเพียงแค่เราทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน เห็นคุณค่าของตัวเราเอง และคนในสังคม ไม่เปรียบเทียบความแตกต่างซึ่งกันและกัน และเราจะก้าวผ่านความเหลือมหล้ำทางสังคมไปได้ เราควรให้ความสำคัญในเรื่องด้านคุณธรรมมากกว่าการจะมองเพียงแค่ด้านการเงินของแต่ละบุคคล ผมขอเน้นย้ำว่าไม่ว่าอาชีพใดใดล้วนมีคุณค่า ขอเพียงแค่เราทำอาชีพที่สุจริต ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และรู้จักมีน้ำใจต่อกัน ผมว่าสังคมของเราจะน่าอยู่ขึ้นมากกว่าการที่เราจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างซึ่งกันและกัน เราต้องทำความเข้าใจว่าแต่ละบุคคลบางทีมีโอกาสไม่เท่าเทียมกัน แต่เราเลือกที่จะเป็นคนดีได้ คนดีสำคัญที่สุด...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น