วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ทำทีวีให้คนอื่นมาก็เยอะ ถึงเวลาที่เราจะทำทีวียีห้อ “เนชั่น” เองเสียที (2)



ความเดิมตอนที่แล้ว ผมเล่าถึงเหตุปัจจัยต่างๆ ว่าทำไมเครือเนชั่น นำโดยคุณสุทธิชัย หยุ่น จึงคึกคักเป็นอย่างยิ่ง กับการประมูลช่องทีวีดิจิทัลครั้งนี้ ถึงกับกล่าวลงในนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับล่าสุด (22 กุมภาพันธ์ 2556) ว่า “สำหรับผม นี่เป็นภารกิจสุดท้าย ถ้าทำเสร็จจะไปเที่ยวแล้ว เชื่อว่าก่อนสิ้นปีจะเกิด.. ถ้าบอกว่าประมูลเสร็จต้องออกอากาศได้ใน 30 วัน เราทำได้ทันที ไม่มีใครพร้อมเท่าเรา”

ภาระกิจสุดท้าย ของคุณสุทธิชัย  มีความหมายมาก เพราะนั่นอาจหมายความว่าหลังเครือเนชั่นมีช่องทีวีดิจิทัล ซึ่งมีฐานะเท่ากับฟรีทีวี 3 5 7 9 แล้ว คุณสุทธิชัย ก็ถึงคราวอำลาวงการ หันหลังให้กับความวุ่นวาย ของข้อมูลข่าวสาร การบริหาร และการตัดสินใจ ที่ได้กระทำมาอย่างหนักห่วงตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าถ้าภาระกิจนี้สำเร็จ ก็ตายตาหลับ เห็นจะได้

อุดมการณ์ของการเป็นนักสื่อสารมวลชนที่ซื่อตรงต่อจรรยาบรรณ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ คุณสุทธิชัย เคยบอกกับผมในรายการชีพจรข่าว ช่องเนชั่นยูทีวี (ทีวีอินเตอร์เน็ตม.เนชั่น) ว่า “ถ้าเรารับเงินนักการเมือง ถ้าเราทำตามใบสั่ง เครือของเราจะสบายมากกว่านี้” คุณเทพชัย หย่อง บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น ก็เคยบอกกับผมทำนองนี้เช่นเดียวกันว่า “เราเป็นองค์กรสื่อเราถือประโยชน์สาธารณะนำหน้า ผลประโยชน์ทางธุรกิจอยู่แล้ว” สอดคล้องกับ คุณอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการบมจ.NBC บริษัทลูกของเครือเนชั่น สายธุรกิจการกระจายภาพและเสียง บอกว่า “ในหลักการทำธุรกิจของที่นี่คุณสุทธิชัยบอกไว้ว่า Good Journalism is Good Business หมายความว่า ถ้าเนื้อหาเราดี เราเป็นนักข่าวที่ดี ธุรกิจของเราก็จะดีตามไปด้วย”

จากแนวคิดของผู้บริหารเหล่านี้ อาจสวนทางกับระบบทุนนิยมที่เป็นอยู่ เครือเนชั่นถือว่าท้าทายมาก ที่สามารถยืนสวนกระแสนี้ได้มาอย่างยาวนาน แม้จะล้มลุกคลุกคลานหลายครั้งก็ตาม การประมูลช่องทีวีดิจิทัล ที่มีข่าวมาว่าเครือเนชั่นจะประมูลถึง 3 ช่อง และอยู่ในระหว่างการระดมทุนจากผู้ถือหุ้น และนักลงทุนต่างๆ ให้มีปริมาณถึง 2,100 ล้านบาท (การประมูลช่องทีวีดิจิทัลเริ่มต้นการประมูลที่ 400 ล้านบาท ต่อช่อง)

ในฐานะคนดูข่าว ผมมองว่าในการประมูลครั้งนี้ เครือเนชั่น พร้อมกับเงินจำนวน 2,100 ล้านบาท น่าจะสามารถประมูลช่องทีวีดิจิทัลได้เพียง 1 ช่องจากที่หวังไว้  3 ช่อง เพราะผมเชื่อว่ากลุ่มทุน และองค์กรหน่วยงานต่างๆ พร้อมที่จะเทเม็ดเงินจำนวนมหาศาลมาร่วมแข่งขันด้วยอย่างแน่นอน

คุณสุทธิชัยบอกว่า ถ้าเลวร้ายจริงๆ เครือเนชั่นไม่สามารถประมูลได้เลยสักช่อง เครือเนชั่นก็พร้อมทำหน้าเป็นผู้ผลิตเนื้อหา / ผู้ผลิตรายการ (Content Provider) ให้กับทีวีช่องต่างๆ

แต่ในใจผมเชื่อว่าเครือเนชั่นจะสามารถประมูลทีวีดิจิทัลครั้งนี้ได้ในช่องประเภทข่าวสารเป็นแน่ อาจจะไม่ได้ทั้ง 3 ช่องอย่างที่หวัง แต่ก็ได้ทำเป็นของตัวเอง ยี้ห้อ “เนชั่น” สักช่องแน่ๆ

ที่ผ่านมาเครือเนชั่น ในสายธุรกิจด้านการกระจายภาพ และเสียง ภายใต้บมจ.NBC มีทีวีดาวเทียมถึง 3 ช่อง ได้แก่ช่องเนชั่นแชนแนล ช่องคมชัดลึกทีวี และช่องกรุงเทพธุรกิจทีวี ส่วนสายธุรกิจด้านเด็กและเยาวชน ภายใต้ บมจ.NIEN ก็มีทีวีช่อง Kids Zone นำเสนอรายการเด็ก และการ์ตูนโดยเฉพาะอีก 1 ช่อง รวมทั้งหมดเครือเนชั่นมีช่องทีวีดาวเทียม รวมกันถึง 4 ช่อง

เพื่อนๆ พี่ๆ ในอุตสาหกรรมสื่อสายการผลิต (Production) บอกตรงกันว่า Production รายการต่างๆของช่องเนชั่นทำได้ไม่ดีนัก ทั้งกราฟฟิก ฉากรายการ และ CG (ตัวอักษร) ซึ่ง Production มีความสำคัญในการทำทีวีไม่แพ้คุณภาพของเนื้อหารายการเช่นกัน เป็นสิ่งที่เครือเนชั่นต้องพัฒนาต่อไป ส่วนความสมบูรณ์ และคุณภาพของเนื้อหารายการ เครือเนชั่นถือว่าทำได้ดีแล้ว โดยเฉพาะตัวพิธีกร ผู้ประกาศ ที่มีทักษณะการนำเสนอได้ไม่น่าเบื่อ

การที่เครือเนชั่นมีทีวีถึง 4 ช่อง ก็เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อพูดถึงการทำงานเบื้องหลัง ที่หนักและเหนื่อยกว่า ทีวีช่องอื่นๆ

ผมเคยจิตนาการว่า ถ้าเนชั่นรวมทีมทั้งหมดที่ทำช่องทีวีดาวเทียมที่มีอยู่ในขณะนี้ถึง 4 ช่องมารวมเป็นช่องเดียว แล้วทำให้ดีไปเลย เนชั่นทีวีจะสามารถสู่กับช่อง 3 ได้อย่างสบาย

ผู้บริหารเคยตอบคำถามเรื่องการแตกแขนงของทีวีเครือเนชั่นว่า เพื่อเป็นการตอบสนองกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างหลากหลายออกไป และเหตุผลทางธุรกิจ

แต่น่าสังเกตุว่าช่อง 3 มีเนื้อหารายการที่อัดแน่น และหลากหลายเต็ม 24 ชม. เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ ทุกระดับ ทุกประเภทก็ดูดี  ด้วยความสามารถในการจัดผังรายการที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคน ก็ทำให้คนดูทางบ้านเปิดแช่ช่อง 3 ทิ้งไว้

นี่เป็นเพียงมุมมองหนึ่งต่อการเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ของวงการโทรทัศน์ไทย ผมจะคอยติดตามดูการประมูลทีวีดิจิทัลครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพราะนี้จะเป็นการเปิดทางให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรม และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถเข้ามาผลิตรายการที่มีคุณภาพสู่สาธารณะ และหวังเหลือเกินว่าเนชั่นจะพลิกเกมวงการทีวี อย่างที่ใครๆคาดไม่ถึง เพราะอย่าลืม ! ว่านี่ เป็นภาระกิจสุดท้ายของผู้ชายที่ชื่อ “สุทธิชัย หยุ่น”

------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น